#แบกเป้เที่ยวสังขละบุรี
#แบกเป้เที่ยวบ้านอีต่อง
สวัสดี
#แบกเป้เที่ยวสังขละบุรี
#แบกเป้เที่ยวบ้านอีต่อง
สวัสดีค่ะ คราวนี้ขอรีวิวทริปลุยเดี่ยวสั้นๆ 3 วัน 2 คืน ไปกาญจนบุรีค่ะ 🙂
วันที่หนึ่ง
7.50น. ขึ้นรถไฟฟรี ข.257 สายธนบุรี-น้ำตก ถึงสถานีปลายทาง 12.35น. จุดไฮไลท์จะอยู่ช่วงหลังผ่านสถานีกาญจนบุรีแล้ว รถไฟจะวิ่งไปบนสะพานข้ามแม่น้ำแคว และก่อนเข้าสู่สถานีถ้ำกระแซรถไฟจะชะลอความเร็วเพื่อวิ่งไต่ไปบนรางรถไฟที่เลียบหน้าผาและอีกด้านเป็นแม่น้ำแคว
จากสถานีน้ำตก ต้องต่อรถสองแถว 20 บาทไปหน้าทางเข้าน้ำตก แต่พอดีฝนตกเราจึงไม่ได้เข้าไปที่ตัวน้ำตกค่ะ และที่นี่ เรามีเวลาไม่นาน ให้รีบเข้าห้องน้ำ ซื้อเสบียง แล้วเดินมารอรถประจำทางสายสังขละบุรีที่จะผ่านประมาณบ่ายกว่าๆ เพื่อเดินทางต่อไปยังสังขละบุรีกันค่ะ ค่ารถบัสคนละ 120 บาท
รถบัสพาเราวิ่งหวานเย็นไปเรื่อยๆ และจอดแช่อยู่ที่ทองผาภูมิซะนาน เพราะต้องรอรับหนูๆ นักเรียนไปส่งตามรายทางด้วย จนเราไปถึงสังขละเกือบหกโมงเย็น คืนนี้เราพักที่ Oh Dee Hostel คืนละ 400 กว่าบาทค่ะ เป็นห้องรวม 4 เตียง แต่เนื่องจากมีแขกเข้าพักไม่มาก เราจึงได้นอนคนเดียว สบายสุดๆ
วันที่สอง
ตื่นเช้า เรียกพี่วินไปสะพานมอญ 20 บาท และเดินข้ามไปตักบาตรที่ฝั่งมอญ อากาศดีเชียวค่ะ ตักบาตรเสร็จ ทานมื้อเช้า เดินถ่ายรูปเล่น แล้วกลับมาที่ห้องพัก เตรียมเช็คเอาท์เพื่อนั่งรถกลับทองผาภูมิ … อ้อ เราไม่ได้นั่งเรือไปชม Unseen วัดจมน้ำนะคะ เพราะเคยไปแล้ว แต่หากใครจะไปต้องเผื่อเวลาเพิ่มอีกค่ะ
รถกลับทองผาภูมิจะมีรถบัสไม่มีแอร์รอบ 8 โมงเช้า และรถตู้ที่วิ่งมาจากด่านเจดีย์รอบประมาณ 8.30น. เราเลือกไปรถตู้เพราะถึงเร็วกว่าและนั่งสบายกว่า ประมาณ 9.45น.ก็ถึงทองผาภูมิแล้วค่ะ มีเวลาพักทานข้าว เข้าห้องน้ำก่อนขึ้นรถไปบ้านอีต่องนิดหน่อย
จากตลาดทองผาภูมิ มีรถสองแถวสีเหลืองไปบ้านอีต่องวันละ 4 รอบ คือ 10.30, 11.30, 12.30 และ 13.30น. ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมงกว่าๆ บนทางขึ้นเขาที่คดโค้งปานจะปิ้งงู ถ้าใครเมารถควรเตรียมตัวให้ดี
อีต่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในอ้อมกอดแห่งสายหมอก แต่วันที่เราไปไม่มีหมอกในหมู่บ้าน 555+ เราพักที่อาร์ม โฮมสเตย์ ห้องไม่ติดแม่น้ำ คืนละ 600 บาท ไม่มีแอร์ มีน้ำอุ่นระบบแก๊สและมีอาหารเช้า ถ้าวันธรรมดาห้องไม่เต็ม แต่วันหยุดต้องจองล่วงหน้านะคะ
โชคดีที่มีน้องนักท่องเที่ยว 2 คนขึ้นสองแถวคันเดียวกับเราและพักที่เดียวกันชวนเราเช่ามอไซค์จากที่พักและขี่ไปตามจุดเที่ยวด้วยกัน ไม่งั้นเราคงได้แต่เดินเล่นรอบๆ หมู่บ้านนี่แหละค่ะ เพราะขี่มอไซค์ไม่แข็ง เป็นภาระให้น้องตลอดทาง 555+ ค่าเช่าวันละ 250 บาทค่ะ
ที่เที่ยวหลักๆ ที่เราไปมีดังนี้
– น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เห็นในรูปไม่ค่อยเท่าไร แต่ตัวจริงสวยมาก คุ้มที่ไปดู (ค่าเข้า 40 บาท)
– อช.ทองผาภูมิ เข้าไปชมบ้านพักบนต้นไม้ และจุดชมวิวภูเขาสุดลูกหูลูกตา
– เนินช้างศึก จุดนี้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ เป็นเนินเขาวิว 360 องศา
– ช่องชายแดนไทย-พม่า อันนี้น้องๆ ไปชม แต่เราไม่ได้ไปค่ะ เพราะเย็นแล้วด่านน่าจะปิดและเราตั้งเป้าจะไปชิมเค้กชาวเหมืองแทนค่ะ
– ร้านเค้กชาวเหมือง เป็นเค้กสูตรของป้าเกล็นแห่งเหมืองสมศักดิ์ ซึ่งปัจจุบันป้าไม่ได้อบเค้กเองแล้ว แต่สั่งจากร้านนี้ไปส่งที่เหมืองค่ะ ร้านเปิด 6.00-18.00น.
วันที่สาม
ตื่นเช้า เดินเล่นรอบหมู่บ้าน แต่น้องสองคนนั้นขึ้นไปชมพระอาทิตย์บนเนินช้างศึกกัน บอกว่ามีทะเลหมอกสวยมากกก
รถสองแถวขากลับมี 4 รอบ 6.30, 7.00, 7.30 และ 8.00น. ถ้าคลาดจากรอบสุดท้ายต้องนอนต่ออีกคืนหรือโบกลงแล้วนะคะ พวกเราให้ลุงคนขับไปส่งที่คิวรถตู้ และขึ้นรถกลับเมืองกาญ จากนั้นต่อรถเข้ากรุงเทพ-หมอชิตโดยไม่ได้แวะไหนอีกเลยค่ะ ถึงกรุงเทพประมาณ 5 โมงเย็นโดยสวัสดิภาพ …. เป็นอันจบทริป
อย่าลืมกดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในรูปนะคะ 🙂
เรื่องและภาพโดย: คุณ Kanapa Panchaipet