#แบกเป้เที่ยวลี่เจียง #แบกเป้เที่ยวคุนหมิง
#แบกเป้เที่
#แบกเป้เที่ยวลี่เจียง #แบกเป้เที่ยวคุนหมิง
#แบกเป้เที่ยวจีน งบ 15,000 จบปิ๊ง
ห้ามพลาด!! สวย ครบ จบที่ “ลี่เจียง” 🏔🍂💚
คนเดียวก็ไปได้ ไม่ต้องรวยก็ไปได้
เวลาน้อยก็ไปได้ พูดภาษาจีนไม่เป็นก็ไปได้
ที่สำคัญ! คนที่นี่น่ารัก😊
你好 – Hello – สวัสดี😇
💚หัวใจพองโต @ ที่ลี่เจียง 💚
บอกก่อนเลยนะจ๊ะว่า…เราเน้นไปสูดอากาศธรรมชาติดูแล้วเพลินตาเจริญใจและไหว้พระ🙏🏻
สายโหด! ไปแบบไม่โหลดกระเป๋า
แบกเป้ 30 ลิตร เอาอยู่💪🏻😁
ถาม : รู้จักที่นี่ได้ไง?
ตอบ : เราชอบอ่านรีวิวเที่ยว อ่านไปจนเจอ
“ลี่เจียงBlue Moon Valley ภูเขาหิมะมังกรหยก”
ยิ่งอ่านยิ่งหลงไหล แบบเหมือนโดนมนต์สะกดของความสวยงามที่นี่ (นี่แค่ดูรูป)
ใกล้บ้าน บินแปปเดียว ไปต่อไม่รอละนะ😉
มาเริ่ม…🛫🏔🍂💚
ทริปนี้ เราไป 4 วัน 3 คืน ( 13-16/12/2018)
13/12/2018 : เดินทางกรุงเทพ-คุนหมิง-ลี่เจียง
14/12/2018 : ภูเขาหิมะมังกรหยก, Blue Moon Valley , เดินเมืองเก่าลี่เจียง
15/12/2018 : กลับคุนหมิง เข้าที่พัก ไปเขาซีซาน ประตูมังกร สักการะเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
บนเขา (มีเยอะมาก)
ตอนเย็น เดินเล่นย่านหนานผิง Nanping
ไปจนถึง Jin Bi Square (จิน ปี้ ก๋วง ฉ่าง)
ซุ้มประตูม้าทอง ไก่มรกต
ถนนจินปี้ลู่ “ย่านการ ค้าที่มีเอกลักษณ์จีน”
ถนนที่เก่าแก่ ที่สุดในคุนหมิง
16/12/2018 : เช้าเดินย่านจินปี้ หนานผิง ทานอาหารเช้า (อาหารพื้นเมือง)
ต่อที่วัดหยวนทง (เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน)
เช็คเอ้าท์ที่พัก
ไปสนามบินเตรียมตัวกลับบ้าน
13/12/2018 (Day 1)
🛫 เดินทางสายการบิน China Eastern Airlines กรุงเทพ – คุนหมิง : 7.50 – 11.00
(เวลาท้องถิ่นจีนเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง)
🛫 รอต่อเครื่อง สายการบิน Lucky Air
คุนหมิง – ลี่เจียง : 16.35 – 17.50
🚕 นั่งแท๊กซี่ไปเมืองเก่าลี่เจียง lijiang old town
เข้าที่พัก Gu Yun Xuan เจ้าของที่พักที่นี่ชื่อ ” Wong ” ใจดี น่ารัก พูดภาษาอังกฤษได้ (เดินไปรอรับเราตรงที่ลงแท๊กซี่) น่ารักปะละ^^
เราเลยถาม wong เลยว่า พรุ่งนี้เราจะไปภูเขาหิมะมังกรหยก ติดต่อรถให้เราหน่อยได้ไหม และถ้าราคาเหมารวมค่าบัตรเข้า ค่าเคเบิ้ล ค่าอาหารกลางวัน รวมแล้วเท่าไหร่
Wong ตอบว่า…400 หยวน (ราคา 1 คน)
เรารีบตอบเลย… okๆๆๆ 555 (ถือว่าได้ราคาถูกเลยละ)
😇 สบายใจมีรถไปภูเขาหิมะละ แฮร่ๆๆ
💃🏻 ปะ…เดินเที่ยวได้ ก่อนจะออกจากที่พัก wong ได้อธิบายเส้นทางมาหมดแล้ว (ดูแลดีมาก)
เราก็เดินมาตามทาง จริงๆ ตลอดทางที่เราเดินจะมีแผนที่เมืองเก่าตั้งอยู่เป็นระยะ และจะมีจุดบอกว่าเราอยู่ตรงนี้นะ จะไปเดินไปทางไหน จุดหมายตรงไหน ก็ดูแผนที่เดินไปตามทางสบายๆ เลย
เดินมาเรื่อยๆ เพลินตาร้านค้า ของฝากชาวยูนนานเต็มไปหมด ขนม ของกิน เยอะมาก
ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าละ พอเดินมาถึงลานกิจกรรมมีการเต้นแบบยูนนาน จากนั้นก็เลี้ยวขวา
เราก็มุ่งหน้าไป “กังหันยักษ์” เอกลักษณ์เมืองเก่าลี่เจียง เดินตามทางคลองเล็กๆ ในเมืองเก่าได้เลย ตรงไปเรื่อยๆ สุดทาง ก็จะเจอกังหันยักษ์ ถ่ายรูป📷 เป็นอันว่ามาถึงลี่เจียง55
14/12/2018 (Day 2)
⛅️ 6.50 : เดินมาทานอาหารเช้า ร้านใกล้ๆ ที่พัก มีซาลาเปา🥠🥟เกี้ยวซ่า🍵น้ำเต้าหู้ร้อนๆ คลายความหนาวด้วยอุณหภูมิที่ 0 องศา ❄️ อร่อยมากกกก สด ใหม่ เพราะเขาปั้นเองสดๆ แล้วนึ่งเลย (คนขายคือดีหล่อ ตี๋อินเตอร์🤣)
⛅️ 7.00 : รถมารับ เป็นการจอยทริปกับคนจีน
ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก ขับเข้ามาเรื่อยๆ เริ่มหนาว อากาศเริ่มเย็น พอจอดรถลงมาเท่านั้นแหละ ลมก็แรง อากาศก็เย็น คนขับรถก็แจกเสื้อโค้ทสีแดงกันลมให้ พร้อมกับออกซิเจนกระป๋องใหญ่ (เสื้อโค้ทแดงช่วยกันลมได้เยอะเลย)
เวลาจะถ่ายรูปก็ถอดเสื้อสีแดงออก เกร๋ๆ😉
พอไปถึงคนขับรถก็ฝากเราไว้กับคนในกรุ๊ป ซึ่งเป็นคนจีนที่พอจะพูดภาษาอังกฤษได้ ถือว่าโชคดี 😁 ในกรุ๊ปเราจะใช้ We Chat เป็นช่องทางการติดต่อ ทุกคนน่ารักกับเรามากไปไหนไปกัน แถมถ่ายรูปให้ด้วย📷 เราก็ถ่ายให้เขานะ แลกกัน อิอิ😊
เขามาก็จะนั่งรถบัส ไปต่อรถกอล์ฟ ก็จะถึง
Lan Yue Gu 蓝月谷หรือ Blue Moon Valleyโดยธารน้ำจะแบ่งเป็น 5 ชั้น แต่ละชั้นจะสวยงามแตกต่างกันไป คือ ของจริงสวยกว่าในภาพถ่ายอีก (ห้ามพลาดต้องมาดูเอง!) เดินไปเรื่อยๆ เพลิดเพลินมาก ไม่อาจทำให้ละสายตาได้เลย 💚หลงเลยละ💚
จากนั้นไปต่อกันเลย เราไปทานอาหารกลางวันกัน ที่ร้านในอุทยาน อาหารจะเป็นคล้ายๆ ชาบู มีผัก ฟองเต้าหู้ เนื้อสัตว์ ใส่ลงไปในหม้อ รอเดือด หอมมมม อร่อยกว่าที่คิด พร้อมทั้งมีน้ำจิ้ม คล้ายๆ น้ำปลาพริกบ้านเราอะ แต่เขาเรียกพริกว่า “หม่าล่า” ไม่เผ็ดเท่ากับบ้านเรานะ จะออกขมนิดหน่อย แต่รวมๆ แล้วใช้ได้เลย ผ่านนน👍🏻🍲
อิ่มท้องแล้วนั่งรถไปอีกนิด เพื่อไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ จะส่งขึ้นไปถึงเกือบๆ ยอดเขา สูงเหมือนกันนะเนี่ย😅 แอบกลัวนิดๆ แต่พอเห็นภูเขาหิมะมังกรหยก ที่ตระกาลตาอยู่ตรงหน้าเนี่ย🏔 ลืมความกลัวหมดเลย มันสวยมากกกกกกกกกก
คือแบบใกล้ๆ ประเทศไทยมีแบบนี้จริงๆ หรอเนี่ย
สมกับเป็นสถานที่ระดับ AAAAA มันสุดยอดจริงๆ
พอลงจากเคเบิ้ลคาร์ เราต้องเดินต่อขึ้นไปอีกนิดประมาณ 1 กิโลมั้งนะ555 แต่ด้วยความสูง 4,680 เมตร อากาศบาง อากาศเย็น หิมะเยอะ ทำให้บางคนรู้สึกเหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก (แต่ถ้าออกกำลังกายบ่อยๆ แบบเรา รับรอง! ไม่ต้องพึ่งออกซิเจนเลย เดินเรื่อยๆ สบาย)💪🏻
ระหว่างทางเดินขึ้นเราจะเพลินกับหิมะสุดๆ
ถึงจุดที่สุดทางเดินก็ถ่ายรูปสิจ๊ะ แฮร่ๆ คนจีนที่มากรุ๊ปเดียวกัน พูดกับเราว่า “เธอแข็งแรงมากเลย ไม่เหนื่อยหรอ” ไอ้เราก็ขำใส่เลย บอก…สนุกดี^^
ใกล้ชิดและอิ่มเอมกับหิมะเต็มที่ เราก็เริ่มเดินลงและนั่งเคเบิ้ลคาร์ลงไปข้างล่าง นั่งรถบัสกลับไปที่ลานจอดรถและเดินทางกลับเข้าเมืองเก่าลี่เจียง
กินข้าว เดินเล่น เดินไปนั่งจิบชา ชมหลังคาเมืองเก่าลี่เจียง ที่ร้าน Dongba Observatory (นั่งจิบชา ฟังดนตรีสด) ฟินนนน
หลังจากนั้นกลับที่พัก นอนพักผ่อน
15/12/2018 (Day 3)
🛬 7.50-8.45 นั่งเครื่องกลับมาคุนหมิง
เดินทางสายการบิน China Eastern Airlines
เดินลงมาชั้นล่างจะมีป้ายบอกทางไปนั่งรถไฟเข้าเมืองคุนหมิง (สะดวกและราคาถูก)
สายที่เรานั่งจาก Kunming Airport คือ Metro Lines 6 เราจะไปเก็บของเข้าที่พักก่อน และค่อยไป ประตูมังกรแห่งเขาซีซาน
เริ่มจากไปกดบัตรที่ตู้ (คล้ายๆกดซื้อตั๋ว BTS ) ให้เราเลือกสถานีปลายทาง ที่เราจะไป แล้วใส่ตังค์เข้าไป (5 หยวน) ของเราลงสถานี Dongfeng Square ซึ่งเราจะต้องเปลี่ยนจาก Lines 6 มาขึ้น Lines 3 ที่สถานี East Coach Station
ที่พักของเราคือ Ibis Styles Kunming Nanping Hotel
เราต้องมาลงสถานี Dongfeng Square แล้วเดินออกทางออก H เดินตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอสี่แยก เราต้องเดินข้ามสี่แยกก่อนแล้วเลี้ยวขวา โรงแรมจะอยู่ทางซ้ายพอดี เก็บของเสร็จ
ไปเติมพลังที่ KFC แล้วเดินทางต่อ…ด้วย Metro Lines 3 เราจะต้องเดินกลับมาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีเดิมคือ สถานี Dongfeng Square
กดซื้อตั๋วเลือก Lines 3
สถานี Western Hills Park หรือ เขาซีซาน
(5 หยวน) นั่งสุดสายเลยจ้า🚇🚈
พอถึงก็เดินไปทางออก A โผล่ขึ้นมาก็จะเห็นวิวเมืองคุนหมิงทางด้านซ้าย รีบเดินไปซื้อตั๋วเข้าก่อนเลย เราซื้อแบบรวมทุกอย่างราคา 90 หยวน (นั่งรถบัส,ต่อกระเช้า,และรถกอล์ฟ,รถบัสขาลง)
เริ่มจากนั่งรถบัสขึ้นไปทางเข้า แล้วนั่งกระเช้าขึ้นไปบนเขาซีซาน พอถึงจุดลงกระเช้าก็เดินไปตามทางจะมีป้ายบอกทางตลอดว่า…เส้นทางไหน ไปตรงจุดไหนบ้าง มีศาลเจ้า เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนเขาเยอะมาก ถ้าจะไหว้ให้ครบคงต้องมาตั้งแต่เช้า
แต่เรามุ่งหน้าไปประตูมังกร🐉🙏🏻🎉⛰
และไหว้ตามทางที่เดินแล้วเจอ เจอศาลเจ้าไหนเทพเจ้าไหนก็ไหว้หมดทุกที่🙏🏻🙏🏻🙏🏻
ทำบุญไหว้เจ้าอิ่มเอมใจ เราก็เดินทางกลับลงมานั่งรถกอล์ฟต่อด้วยรถบัสลงมาด้านล่างเช่นเดิม
5 โมงเย็นแล้วรีบกลับไปเดินเล่น หาไรกินดีกว่า
เราก็ใช้วิธีการเดินทางโดยรถไฟฟ้าเหมือนเดิม
กดเลือก Lines 3 ลงสถานี Dongfeng Square
(5 หยวน)
พอถึงก็ใช้ทางออกเดิมคือ H แล้วเดินข้ามแยกตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเป็นย่านวัยรุ่น
ชื่อว่า ย่าน Nanping (ประมาณว่าเดินสยาม)
หิวชาไข่มุกแล้ววววง่าาา🥤🍢🥮🍜🌯
ได้เวลากินแหลก ไม่เน้นช้อปปิ้งจ้า ถนนเส้นนี้พอเดินมาถึงลานตรงกลางให้เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปก็จะเป็น “ซุ้มประตูม้าทอง ซุ้มประตูได่มรกต”
Jin Bi Square (จิน ปี้ ก๋วง ฉ่าง)
ถนนจินปี้ลู่ “ย่านการ ค้าที่มีเอกลักษณ์จีน”
ถนนที่เก่าแก่ ที่สุดในคุนหมิง กินจนอิ่ม กลับไปอาบน้ำซุกผ้าห่มนอน😴
16/12/2018 (Last Day) แงๆ🥺
ยังไม่อยากกลับเลย
วันนี้ตื่นสายกว่าทุกวันเลย แฮร่ๆ
8.00 : เดินไปกินอาหารเช้าตามตลาดข้างทาง
มีแต่ของน่ากิน อร่อยด้วย
อิ่มท้องแล้วเราก็ไปเก็บของ
ต่อที่ “วัดหยวนทง”
(วัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน)
เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเหมือนเดิม(ถูกและสะดวก คริคริ^^)
เดินกลับไปขึ้นที่ สถานี Dongfeng Square
กดเลือก Lines 2 ลงสถานี Chuanxingulou
(2 หยวน)
ออกทางออก A ออกมาแล้วเลี้ยวขวาตรงหัวมุมเลย เดินมามองไปจะเจอสะพานแขวน เดินข้ามสะพานแขวน ข้ามสี่แยกไป ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอประตูบานใหญ่ เราต้องเสียค่าเข้า 6 หยวน
วัดสวยมาก ไหว้พระ ขอพร ชมความงามของวัดเสร็จ ก็กลับที่พัก เช็คเอ้าท์
Go to Kunming Airport 🚈🚇
สะดวกมากก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้า
สถานี Dongfeng Square
กดเลือก Lines 6 ลงสถานี Kunming Airport
(5 หยวน) โดยการเดินทางเหมือนตอนมาเลย
เราจะต้องเปลี่ยนจาก Lines 3 มาขึ้น Lines 6 ที่สถานี East Coach Station
ใช้เวลา30 นาที ก็ถึง Airport แล้ว
เที่ยวบินขากลับ
🛬เดินทางสายการบิน China Eastern Airlines คุนหมิง – กรุงเทพ : 17.00-18.20
(เวลาท้องถิ่นจีนเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง)
ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ แต่ใจยังอยู่ลี่เจียงอยู่เลย
💚🏔💚
***ลืมบอกว่าต้องมีค่าวีซ่าด้วยนะคะ ปีที่แล้ว 1,500
เรื่องและภาพโดย: คุณ Jantanipa Ploy Chumjaem